[x] ปิดหน้าต่างนี้
Powered by ATOMYMAXSITE 2.5
:::โรงเรียนจอมพระประชาสรรค์ยินดีต้อนรับ:::
ยินดีต้อนรับคุณ บุคคลทั่วไป  
English Chinese (Simplified) Chinese (Traditional) French German Italian Japanese Korean Portuguese Russian Spanish Vietnamese Thai     
ค้นหา   
::: ยินดีต้อนรับสู่ เว็บไซต์โรงเรียนจอมพระประชาสรรค์ อำเภอจอมพระ จังหวัดสุรินทร์ 32180 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต33 กระทรวงศึกษาธิการ :::
เมนูหลัก
ภาระงานกลุ่มบริหาร






ภาระงานกลุ่มสาระ
















ภาระงาน จปส.


 






 



 




หลักสูตรลดเรียนเพิ่มรู้&บูรณาการ
กิจกรรมสาธารณะประโยชน์ IS3 
 








ห้องเรียนออนไลน์








 

poll

   คุณคิดว่าเวปนี้เป็นอย่างไร


  1. ดีเยี่ยม
  2. ดีมาก
  3. ดี
  4. ปานกลาง
  5. พอใช้


ช่องทางร้องทุกข์
ระบบสารสนเทศ





















  

   เว็บบอร์ด >> ห้องนั่งเล่น >>
โมกบ้าน  VIEW : 509    
โดย 845

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 233
ตอบแล้ว :
เพศ :
ระดับ : 12
Exp : 34%
เข้าระบบ :
ออฟไลน์ :
IP : 49.228.238.xxx

 
เมื่อ : ศุกร์์ ที่ 3 เดือน ธันวาคม พ.ศ.2564 เวลา 20:50:42    ปักหมุดและแบ่งปัน

สมุนไพรโมกบ้าน มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า หลักป่า (ระยอง), โมกซ้อน โมกลา โมกบ้าน (ภาคกลาง), โมก โมกบ้าน
โมกดอกหอม โมกกอ (ไทย), ปิดจงวา (เขมร-สุรินทร์) เป็นต้น
ชื่อวิทยาศาสตร์ Wrightia religiosa (Teijsm. & Binn.) Benth. ex Kurz
ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Echites religiosus Teijsm. & Binn., Wrightia religiosa (Teijsm. & Binn.) Benth.)
จัดอยู่ในวงศ์ APOCYNACEAE เช่นเดียวกับโมกเครือ โมกแดง โมกมัน โมกหลวง

ลักษณะของโมกบ้าน
ต้นโมกบ้าน มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย จัดเป็นไม้พุ่มขนาดกลางไม่ผลัดใบ มีความสูงของต้นประมาณ 1-3 เมตร
เรือนยอดแผ่กว้าง เปลือกต้นเรียบเกลี้ยงเป็นสีน้ำตาลเข้ม และมีจุดเล็ก ๆ สีขาวประอยู่ทั่วไป แตกกิ่งต่ำใกล้ผิวดินเป็นลำต้นจำนวนมาก
ทุกส่วนของต้นมีน้ำยางสีขาว ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ด ปักชำกิ่ง และตอนกิ่ง เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนระบายน้ำได้ดี
มีความชื้นปานกลาง ชอบแสงแดดแบบเต็มวันถึงรำไร เป็นพรรณไม้กลางแจ้ง ทนต่อความร้อนและแสงแดดได้ดี มักพบขึ้นตามป่าละเมาะที่ชื้น
และตามป่าดงดิบ

ใบโมกบ้าน ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงตรงข้ามกัน ลักษณะของใบเป็นรูปรีหรือรูปไข่ ปลายใบแหลมหรือมน โคนใบมนหรือสอบเข้าหากัน
ส่วนขอบใบเรียบไม่มีหยัก ใบมีขนาดกว้างประมาณ 0.8-2.5 เซนติเมตรและยาวประมาณ 1.3-7.8 เซนติเมตร เนื้อใบบาง ท้องใบเรียบ
ส่วนก้านใบยาวประมาณ 1-2 เซนติเมตร

สมุนไพร

ดอกโมกบ้าน ออกดอกเป็นช่อตามซอกใบ ช่อหนึ่งมีประมาณ 4-8 ดอก ดอกมีกลิ่นหอมเย็น (ในตอนค่ำจะมีกลิ่นหอมแรงกว่าตอนกลางวัน)
มีทั้งดอกชั้นเดียวที่เรียกว่า “โมกลา” และชนิดที่มีกลีบดอกเรียงซ้อนกันเรียกว่า “โมกซ้อน” ดอกย่อยเป็นสีขาว มีกลีบดอก 5-16 กลีบ
กลีบดอกเป็นรูปไข่ โคนกลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอดเล็ก ๆ ยาวประมาณ 0.5 มิลลิเมตร ดอกมีกลิ่นหอม ส่วนกลีบเลี้ยงดอกเป็นสีเขียว
โคนเชื่อมติดกัน ปลายแยกเป็นแฉกแหลม กลางดอกมีเกสรติดกับหลอดท่อดอก ก้านชูดอกยาวเป็นเส้นเล็ก เมื่อดอกบานเต็มที่
จะมีขนาดกว้างประมาณ 1.5-2 เซนติเมตร สามารถออกดอกได้ตลอดทั้งปีหากอยู่ในสภาพที่เหมาะสม
และจะออกดอกมากเป็นพิเศษในช่วงปลายฤดูและต้นฤดูหนาว

ผลโมกบ้าน ออกผลเป็นฝักคู่ โคนฝักเชื่อมติดกัน ปลายฝักแหลม ผิวฝักเรียบ ขนาดของฝักยาวประมาณ 5-6.5 นิ้ว
เมื่อฝักแก่แล้วจะแตกออกเป็น 2 ซีก ภายในฝักมีเมล็ดจำนวนมาก ลักษณะของเมล็ดเป็นรูปกระสวย ที่ปลายเมล็ดมีขนปุยสีขาว
ช่วยทำให้ปลิวลมไปได้ไกล ๆ โดยชนิดดอกลาจะติดฝักได้ดีกว่าชนิดดอกซ้อน

สรรพคุณของโมกบ้าน
1. เปลือกเป็นยาช่วยทำให้เจริญอาหาร (เปลือก)
2. ยางจากต้นใช้เป็นยาแก้โรคบิดที่มีอาการเลือดออก (ยาง)
3. ดอกเป็นยาระบาย (ดอก)
4. เปลือกช่วยรักษาโรคไต (เปลือก)
5. ใบใช้ขับน้ำเหลือง (ใบ)
6. ยางใช้เป็นยาแก้พิษงูและแมลงกัดต่อย (ยาง)
7. รากมีรสเมามัน ใช้ปรุงเป็นยารักษาโรคผิวหนังจำพวกโรคเรื้อนและคุดทะราด (ราก)

ประโยชน์ของโมกบ้าน
– ใช้ปลูกเป็นไม้ประดับทั่วไป มีใบสวยงาม ดอกหอม นิยมปลูกไว้ประดับสวน ปลูกริมน้ำตก ลำธาร ริมทะเล
หรือปลูกลงในกระถางเป็นไม้แคระหรือบอนไซ หรือปลูกเป็นแถว ๆ เพื่อบังสายตา โดยจะทิ้งใบในช่วงฤดูหนาว
ทนร่มได้ดี จึงปลูกในอาคารได้นาน สามารถควบคุมการออกดอกได้ ด้วยการควบคุมการให้น้ำและปุ๋ยอย่างเหมาะสม
และสามารถตัดแต่งให้เป็นรูปทรงที่สวยงามได้ตามต้องการ การตัดแต่งทรงพุ่มต้องทำอย่างสม่ำเสมอ
เพราะจะทำให้เป็นทรงพุ่มแน่นสวยงาม แต่จะไม่ค่อยออกดอกให้ชม และควรปลูกในพื้นที่กลางแจ้ง
เพราะการปลูกในที่มีแสงแดดไม่เพียงพอจะทำให้ต้นสูงชะลูดและไม่ค่อยออกดอก
– ดอกนิยมนำไปสกัดกลิ่นหอมทำเป็นน้ำอบไทยหรือน้ำปรุง
– คนไทยโบราณเชื่อว่าหากบ้านใดปลูกต้นโมกไว้เป็นไม้ประจำบ้าน จะทำให้เกิดความสุขบริสุทธิ์ สดใส
เพราะคำว่าโมกนั้นมีเสียงพ้องกับคำว่า “โมกข์” หรือ “โมกษ์” นั้นหมายถึงความหลุดพ้นจากกิเลสและทุกข์ทั้งปวง
ซึ่งเป็นความหมายเดียวกับนิพพานนั่นเอง นอกจากนี้ยังเชื่อว่าจะช่วยคุ้มครองป้องกันภัยทั้งปวง
(โดยเฉพาะกับชาวราศีพฤษภ (15 พ.ค.-14 มิ.ย.) และเพื่อความเป็นสิริมงคล ให้ปลูกต้นโมกไว้ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
และผู้ปลูกควรปลูกในวันเสาร์เพื่อเอาคุณ

https://thaigoodherbal.com/%e0%b9%82%e0%b8%a1%e0%b8%81%e0%b8%9a%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%99/